แนะนำจังหวัด แม่ฮ่องสอน

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น

ร่วมกันบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

10001315_832874626754232_3826209183115019906_n

 

 

10846298_832874606754234_4636808378571288568_n

 

ข้าราชการ พ่อค้าประชาชน ร่วมกันบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนือ่งในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา 5 ธันวาคม 2557 ณ อาคารบุญชู ตรีทอง โรงเรียนห้องสอนศึกษา

 

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมพิธีบวชป่าเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช

1508072_832876736754021_6162770878149421391_n

5 ธันวาคม 2557 เวลา 10.30 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายสุรพล พนัสอำพล พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน นางหทัยชนก พนัสอำพล พร้อมด้วยส่วนราชการ และประชาชนจำนวนมาก ร่วมพิธีบวชป่าเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับประชาชนหลายภาคส่วนจัดขึ้น ณ บริเวณป่าทางขึ้นวัดพระธาตุดอยกิ่วขมิ้น เพื่อร่วมกันอนุรักษ์ป่าบริเวณรอบๆ วัดพระธาตุดอยกิ่วขมิ้นให้คงอยู่และป้องกันการทำลายป่าบริเวณดังกล่าวด้วย

 

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น

สายการบินนิธิกานต์แอร์ เอวิเอชั่น เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เอ ที อาร์ 72 สู่แม่ฮ่องสอน รับเทศกาล10001302_832878223420539_7189907742114173927_nท่องเที่ยว

10001302_832878223420539_7189907742114173927_n

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2557 นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมผู้ประกอบการท่องเที่ยว ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารที่เดินทางมากับเที่ยวบินปฐมฤกษ์เอทีอาร์-72 สายการบินกานต์นิธิแอร์ เอวิเอชั่น ซึ่งบินจากเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน สามารถรับผู้โดยสารได้กว่า 60 ที่นั่ง
ร.อ.สมพงษ์ สุขสงวน ประธานบริหารกานต์นิธิแอร์ กล่าวว่า ช่วงท่องเที่ยวของแม่ฮ่องสอนจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะต้นฤดูกาลความต้องการเดินทางมีมากทำให้เราต้ดสินใจที่จะต้องให้การช่วยเหลือ เพราะที่ผ่านมาธุรกิจของกานแอร์ก็เกิดที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ดังนั้นจึงต้องการช่วยเหลือแม่ฮ่องสอน ให้ชาวบ้านได้มีโอกาสสะดวกในการเดินทาง อีกอย่างหนึ่งต้องการดูแลผู้ป่วยที่เดินทางไปเชียงใหม่ได้สะดวก ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายตั๋วเดินทางเราสามารถที่จะคุยกันได้ ผู้โดยสารไม่เดือดร้อนเกินไป ธุรกิจอยู่ได้ ก็ไม่มีปัญหา ส่วนผู้ป่วยที่ไม่ต้องนอนเปลที่สามารถนั่งไปได้ก็จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก ซึ่งเราอยากให้บริการเป็นการตอบแทน สำหรับสายการบินกานต์แอร์ ปัจจุบันนี้ให้บริการเส้นทางเชียงใหม่แม่ฮ่องสอน วันละ 3 เที่ยวบิน ด้วยเครื่องบินขนาดเล็กที่จุผู้โดยสารได้เพียง 12 ที่นั่งเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยว

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น

องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดงานเปิดเมิงไตชิมอาหารไทยใหญ่ ชมสินค้าท้องถิ่น ครั้งที่ 8 เพื่อส่งเสริมสินค้าโอท็อป และการท่องเที่ยว

10170739_833747003333661_7218587215273684980_n

องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดงานเปิดเมิงไตชิมอาหารไทยใหญ่ ชมสินค้าท้องถิ่น ครั้งที่ 8 เพื่อส่งเสริมสินค้าโอท็อป และการท่องเที่ยว
ช่วงค่ำ ของวันที่ 6 ธันวาคม 2557 นายอัครเดช วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวรายงานต่อ นายสุรพล พนัสอำพล ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานพิธีเปิดงานเปิดเมิงไต ชิมอาหารไทใหญ่ ชมสินค้าท้องถิ่น ครั้งที่ 8 ณ สวนสาธารณะหนองจองคำ
นายอัครเดช วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดงานเปิดเมิงไต ชิมอาหารไทยใหญ่ ชมสินค้าท้องถิ่น ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 6 – 10 ธันวาคม 2557 ที่บริเวณสวนสาธารณะหนองจองคำ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อแสดงอัตลักษณ์ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เช่นการแสดงวิถีชีวิตชนเผ่าต่างๆ การแสดงศิลปวัฒนธรรม การแสดงดนตรีพื้นบ้าน อีกทั้งเพื่อต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยว ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์ และจำหน่ายสินค้าชุมชนและสินค้า OTOP ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย นำมาซึ่งรายได้ให้กับประชาชนชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน
นอกจากนั้น ยังมีการนำเสนออาหารประจำท้องถิ่นของจังหวัดแม่ฮ่องสอน หลายสิบชนิด โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนได้ชิมกัน จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวน เที่ยวงานเปิดเมิงไต ชิมอาหารไทใหญ่ ชมสินค้าท้องถิ่น ครั้งที่ 8 ได้ ระหว่าง 6 ถึง 10 ธันวาคม 2557 นี้ ณ สวนสาธารณะหนองจองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น

รับลมหนาวให้เย็นใจ ไปแอ่ว…แม่ฮ่องสอน

 

ถึงฝนจะตก ถึงฟ้าจะร้อง อากาศจะร้อน น้ำจะท่วม เราก็ไม่หวั่นที่จะหาเรื่องราวที่เที่ยวดีๆ มานำเสนอท่านผู้อ่านเหมือนเช่นเคย วันนี้เราจะพาไปแอ่วเมืองเหนือกันที่เมืองสามหมอก แม่ฮ่องสอน เพราะที่นี่อากาศหนาวเริ่มมาเยือนแล้ว… ปีใหม่นี้หากใครยังไม่มีแพลนว่าจะไปไหน แม่ฮ่องสอนก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน! จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดในภาคเหนือของประเทศไทย มีความโดดเด่นหลายลักษณะ โดยเฉพาะสภาพภูมิประเทศ ความหลากหลายด้านวัฒนธรรม และความหลากหลายของประชากรจากหลายกลุ่มชาติพันธุ์ นับเป็นจังหวัดที่สถิติน่าสนใจหลายอย่าง เช่น มีประชากรเบาบางที่สุดในประเทศและมีประชากรน้อยมากเป็นอันดับ 5 ในขณะที่มีพื้นที่มากเป็นอันดับ 8 ของประเทศ

แม่ฮ่องสอน ได้ชื่อว่าเป็น เมืองสามหมอก เนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศเต็มไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน สภาพอากาศมีหมอกปกคลุมตลอดเวลาส่วนใหญ่ของปี นอกจากนี้แม่ฮ่องสอนยังนับเป็นพื้นที่ปลายสุดด้านตะวันตกของประเทศ คือที่เส้นแวง 97.5 องศาตะวันออกในเขตอำเภอแม่สะเรียง (ตะวันออกสุดของประเทศ อยู่ที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ที่ 105.5 องศาตะวันออก) ประชากรในจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีความหลากหลาย ทั้งคนเมือง ชาวไต (ไทใหญ่) จีนฮ่อ พม่าและชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ราวร้อยละ 60 ของประชากรทั้งหมด ได้แก่ ม้ง (แม้ว) ลีซู (ลีซอ) ล่าหู่ (มูเซอ) ลัวะ และปกฺกะญอ (กะเหรี่ยง) เป็นต้น โดยต่างรักษาวัฒนธรรมของตนเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็อยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านที่มีวัฒนธรรมต่างกันได้โดยไม่เคยปรากฏความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมแต่อย่างใด

1

เริ่มต้นเที่ยวจากในตัวเมืองกันก่อน เราขอพาท่านไปกราบสักการะ อนุสาวรีย์พญาสิงหนาทราชา อยู่ต้นถนนขุนลุมประพาส เดิมชื่อ ชานกะเล เป็นชาวไทยใหญ่ ได้รวบรวมผู้คนตั้งหมู่บ้านชื่อว่า “บ้านขุนยวม” ต่อมาได้ยกขึ้นเป็นเมือง จวบจนปี พ.ศ. 2417 จึงได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นเมืองแม่ฮ่องสอน และพระเจ้าอินทวิชยานนท์เจ้าครองนครเชียงใหม่ ได้ยกบรรดาศักดิ์ชานกะเล เป็นพญาสิงหนาทราชา และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก เมื่อกราบสักการะเสร็จเรียบร้อยร้อยแล้วให้มุ่งหน้าตรงขึ้นไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตรก็จะพบกับ วัดพระธาตุดอยกองมู ตั้งอยู่บนดอยกองมู ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เดิมมีชื่อเรียกว่า วัดปลายดอย เป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญ ประกอบด้วยพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม 2 องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างโดย จองต่องสู่ เมื่อ พ.ศ. 2403 เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ ซึ่งนำมาจากประเทศพม่า ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กสร้างเมื่อ พ.ศ. 2417 โดย พญาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก จากวัดพระธาตุดอยกองมูนี้สามารถมองเห็นภูมิประเทศและสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจนและสวยงามมาก สามารถมาเที่ยวชมพบความสวยงามที่แตกต่างของที่นี่ได้ทั้งตอนกลางวันและกลางคืน

2

อีกวัดหนึ่งที่มีความสวยงามและเลื่องชื่อเช่นกัน คือ วัดจองกลาง และ วัดจองคำ เป็นวัดที่มีพื้นที่ติดกัน อยู่ติดกับหนองจองคำซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะกลางเมืองแม่ฮ่องสอน โดยส่วนใหญ่จะมีการจัดงานประเพณี วัฒนธรรมต่างๆ บริเวณหนองน้ำจองคำแห่งนี้ อาทิ งานลอยกระทง งานสงกรานต์ เป็นต้น เมื่อมาถึงยังหนองน้ำแล้วให้หันหน้าเข้าวัด วัดที่อยู่ด้านซ้ายมือจะเป็นวัดจองคำ ส่วนขวามือจะเป็นวัดจองกลาง สองวัดนี้สร้างด้วยศิลปะแบบไทยใหญ่ที่มีความงดงามมากทั้งคู่ โดยเฉพาะศิลปะการสร้างอาคารแบบหลังคาซ้อนชั้นที่เรียกว่า “จอง” นอกจากนี้ภายในวัดยังมีเจดีย์ทรงเครื่องแบบมอญที่สวยงาม โดยวัดจองคำถือว่าเป็นวัดแห่งแรกของเมืองแม่ฮ่องสอน ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2340 เมื่อมาถึงวัดจองคำแล้วอย่าลืมไปกราบสักการะหลวงพ่อโตองค์ใหญ่เพื่อเป็นสิริมงคล เมื่อเดินถัดมายังบริเวณวัดจองกลาง ซึ่งจะมีจุดเด่น คือ เจดีย์ประธานทรงมอญ ที่ประดับสวยงามตามรูปแบบของไทยใหญ่ บนจองจะประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์จำลองปิดทองเหลืองอร่ามทั้งองค์ บริเวณด้านข้างจะเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งด้านในจัดแสดงของเก่าที่หาชมยาก มีตุ๊กตาไม้แกะสลักเป็นรูปคนและสัตว์ บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระเวชสันดรชาดก โดยช่างฝีมือชาวพม่า เปิดให้ชมทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. บริเวณถนนด้านหน้าของวัดจะจัดเป็น ถนนคนเดิน ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว เปิดทุกวัน ประมาณ 5 โมงเย็นถึงสี่ทุ่ม แล้วแต่จำนวนความหนาแน่นของนักท่องเที่ยว จะมีสินค้ามาวางขายมากมาย ทั้งของกินและของใช้ เพิ่มสีสันให้เมืองดูคึกคักยิ่งขึ้น

3

และถ้าหากใครมาเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนธันวาคม ก็อาจจะได้โบนัสกลับไปคือ การชมทุ่งดอกบัวตอง ที่บานสะพรั่งเหลืองอร่ามปกคลุมทั่วทั้งภูเขากว่า 1,000 ไร่ อยู่ห่างจากอำเภอแม่เสรียงประมาณ 16 กิโลเมตร ริมทางหลวงหมายเลข 108 บริเวณกิโลเมตรที่ 84 ตำบลแม่เหาะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา พร้อมทั้งยังมีบริการให้เช่าเต็นท์ค้างแรมบนดอยได้ด้วย ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ บริเวณหน่วยทำการบนทุ่งบัวตอง หรือที่อำเภอขุนยวม โทร. 0-5369-1108

4

อีกจุดหนึ่งที่ห้ามพลาด คือ การมาเที่ยวชมหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวห้วยเสือเฒ่า อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง การเดินทางสะดวก ถนนคอนกรีตอย่างดี มีฝายน้ำล้นเป็นช่วงๆ การเดินทางมาเที่ยวที่นี่อย่างคาดหวังว่าเราจะได้เห็นวิถีชีวิตแบบเดิมๆ ของพวกเขา เพราะความเจริญได้เข้ามาทำให้วัฒนธรรมบางอย่างของที่นี่อาจจะหายไปบ้าง การแต่งกายของคนยุคใหม่เริ่มดูเป็นเมืองมากขึ้น แต่บางคนก็ยังคงอนุรักษ์ไว้ แต่ก็ยังคงเสน่ห์เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้มาแวะเวียนกันอย่างไม่ขาดสาย ผู้คนดูอัธยาศัยใจคอดี ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ การมาเที่ยวที่นี่นอกจากจะถ่ายรูปกับชนเผ่าเป็นที่ระลึกแล้ว เค้ายังมีชุดให้เราเช่าถ่ายแต่งตัวเหมือนกับชนเผ่าอีกด้วย โดยมีร้านขายของที่ระลึก เช่น เสื้อยืด พวงกุญแจ โปสการ์ด และ ตุ๊กตาไม้รูปสาวกระเหรี่ยงคอยาว อยู่ตลอดทางเดิน เสียค่าผ่านทางคนละ 20 บาท

5

ห่างจากจุดนี้ไปอีกไม่ไกล ก็จะได้พบกับ “ภูโคลน คันทรี่คลับ” เป็นสถานที่ทำหน้าใสพอกหน้าสวยด้วยโคลนธรรมชาติ ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งโคลนสุขภาพที่ดีที่สุดในประเทศไทย ซึ่งในโลกมีเพียง 3 แห่งเท่านั้น คือ ที่ทะเลสาป DEAD SEA ในประเทศอิสราเอลและจอร์แดน ซึ่งเป็นโคลนจากทะเลน้ำเค็ม และอีกที่คือ โคลนจากลาวาภูเขาไฟ ในประเทศโรมาเนีย ส่วนโคลนของที่นี่ถือเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นโคลนเดือนบริสุทธิ์สีดำที่ขึ้นมาพร้อมกับสายน้ำแร่ธรรมชาติใต้ดินที่สะอาด มีอุณหภูมิอยู่ที่ 60 – 140 องศาเซลเซียส ไม่มีกลิ่นของกำมะถัน อุดมด้วยแร่ธาตุถึง 6 ชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหนังและระบบไหลเวียนของร่างกาย ค่าบริการพอกหน้าอยู่ที่ 60 บาทต่อท่านใช้เวลาประมาณ 15 นาที หากท่านใดมีเวลาเหลือเฟือแล้วอยากจะลองพอกโคลนทั้งตัวเพื่อพลัดเซลล์ผิวเก่าก็ทำได้ สนนราคาท่านละ 700 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-5361-2265 หรือที่ http://www.pooklon.com

6

ห่างจากจุดนี้ไปอีกไม่ไกล ก็จะได้พบกับ “ภูโคลน คันทรี่คลับ” เป็นสถานที่ทำหน้าใสพอกหน้าสวยด้วยโคลนธรรมชาติ ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งโคลนสุขภาพที่ดีที่สุดในประเทศไทย ซึ่งในโลกมีเพียง 3 แห่งเท่านั้น คือ ที่ทะเลสาป DEAD SEA ในประเทศอิสราเอลและจอร์แดน ซึ่งเป็นโคลนจากทะเลน้ำเค็ม และอีกที่คือ โคลนจากลาวาภูเขาไฟ ในประเทศโรมาเนีย ส่วนโคลนของที่นี่ถือเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นโคลนเดือนบริสุทธิ์สีดำที่ขึ้นมาพร้อมกับสายน้ำแร่ธรรมชาติใต้ดินที่สะอาด มีอุณหภูมิอยู่ที่ 60 – 140 องศาเซลเซียส ไม่มีกลิ่นของกำมะถัน อุดมด้วยแร่ธาตุถึง 6 ชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหนังและระบบไหลเวียนของร่างกาย ค่าบริการพอกหน้าอยู่ที่ 60 บาทต่อท่านใช้เวลาประมาณ 15 นาที หากท่านใดมีเวลาเหลือเฟือแล้วอยากจะลองพอกโคลนทั้งตัวเพื่อพลัดเซลล์ผิวเก่าก็ทำได้ สนนราคาท่านละ 700 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-5361-2265 หรือที่ http://www.pooklon.com

7

เราของปิดท้ายทริปนี้กันที่ “อำเภอปาย” อำเภอยอดนิยมของที่ทำให้คนทั่วไปรู้จักแม่ฮ่องสอนมากขึ้น ที่นี่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแหล่ง เช่นก่อนที่เราจะถึงตัวเมืองปาย ขอให้แวะเที่ยวชมมหัศจรรย์ธรรมชาติที่ “กองแลน” อยู่ด้านซ้ายมือ มีลักษณะคล้ายๆ แพะเมืองผีที่แพร่ แต่มีทางเดินเล็กๆ ให้เดินเที่ยวชมแบบเสียวๆ เหมือนเดินอยู่บนยอดหน้าผา เป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศา เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม

8

เลยไปอีกหน่อยด้านขวามือ ก็จะได้พบกับป้าย “โป่งน้ำร้อนท่าปาย” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เหมาะที่จะมาเล่นน้ำ อาบน้ำแร่จากธรรมชาติ ตามธารน้ำ เมื่อเดินเข้าไปถึงด้านในสุดก็จะเห็นบ่อน้ำที่มีลักษณะน้ำเดือดผุดๆ สามารถนำไข่มาต้มได้ อุณหภูมิความร้อนอยู่ที่ 80 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเป็นจุดกำเนิดน้ำแร่ ระหว่างทางออกก็จะพบเห็นแคมป์ช้างมากมายคอยให้บริการนักท่องเที่ยว จะขึ้นนั่งเที่ยวป่า หรือ ซื้ออาหารเลี้ยงช้างก็ได้ เลยจากจุดนี้ไปก็จะพบกับสะพานเหล็กสีเขียวโดดเด่นอยู่ระหว่างทาง นั่นคือ “สะพานประวัติศาสตร์” ที่นักท่องเที่ยวส่วนมากจะไปยืนโพสต์ท่าสวยๆ กันที่นี่ เป็นสะพานที่ทหารญี่ปุ่นสร้างไว้ใช้ข้ามแม่น้ำปายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

9

พอตกเย็นแวะเดินเล่นที่ “ถนนคนเดินปาย” ในช่วงฤดูท่องเที่ยวจะเปิดขายกันทุกวัน มีทั้งงานอาร์ต ของที่ระลึก ของฝาก เสื้อยืด ผ้าพันคอ กระเป๋า ของกิน … เยอะแยะไปหมด เรียกว่าถ้ามาเดินเล่นแล้ว จะต้องให้มีเหตุให้คุณได้ควักเงินออกจากกระเป๋าแน่นอน

10

ช่วงเช้ามืดแนะนำให้ไปดูทะเลหมอกที่ บ้านสันติชน เลยจากศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนานขึ้นไปประมาณ 1.6 กิโลเมตร ทางลาดชัน สามารถติดต่อรถของชาวบ้านขึ้นไปได้ บางคนจะขึ้นไปรอแสงพระอาทิตย์ยามเช้าตั้งแต่ 04.30 น. เป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจเช่นกัน พอสายๆ ก็ลงมาเดินเล่นที่ ศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนาน บ้านสันติชล ซึงมีบ้านดินตั้งเรียงรายอยู่ มีร้านขายของที่ระลึกที่ทำจากบ้านดิน ร้านอาหารจีนยูนาน และมีก้อนหิน สลักชื่อภาษาจีนตัวใหญ่ๆ วางเด่นเป็นสง่า ด้านหลังก้อนหินใช้เป็นเวทีกลางแจ้ง มีร้านกาแฟ ร้านขายชา และร้านวาดรูปเหมือนโดยใช้พู่กันจีน อีกจุดหนึ่งที่ดูสะดุดตาก็คือ ชิงช้าไม้ ที่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางสนามหญ้า ที่รายล้อมไปด้วยที่พักซึ่งเป็นบ้านดิน โดยมีที่จอดรถอยู่ด้านหน้าศูนย์ฯ

11

ก่อนกลับเข้าไปในตัวเมืองปายอีกครั้ง ควรแวะ “วัดน้ำฮู” เพื่อกราบสักการะพระอุ่นเมือง พระพุทธรูปสิงห์สามอายุประมาณ 500 ปี สร้างด้วยโลหะทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 28 นิ้ว สูง 30 นิ้ว ปางมารวิชัย พระพุทธรูปองค์นี้มีพระเศียรกลวง ส่วนบนเปิดปิดได้ โดยมีน้ำซึมออกมาอยู่เสมอ ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนิยมของน้ำมนต์ที่ออกจากเศียรท่านไปสักการะ บูชา เพราะถือว่าเป็นสิ่งอันเป็นมงคลอย่างหนึ่ง ที่ปายมีทั้งที่กินและที่พักให้เลือกมากมาย ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน สนนราคาก็มีให้เลือกตั้งแต่หลักร้อย หลักพัน ยันหลักหมื่นกันเลยที่เดียว ด้วยพื้นที่ที่จำกัด ฉบับนี้เราเลยขอจบทริปการพาไปสัมผัสอากาศหนาวที่แม่ฮ่องสอนแต่เพียงเท่านี้ก่อน โอกาสหน้าเราจะเก็บตกสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจอื่นๆ มาให้คุณผู้อ่านได้สนุกตื่นตาไปกับเรา ทั้งจุดชมวิวดอยกิ่วลม ถ้ำลอด ถ้ำปลา ป่านสน และ ห้วยน้ำดัง เป็นต้น

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น

เปิดอุปสรรค “แม่ฮ่องสอน” เหตุใดไม่มีฟุตบอลลงแข่งขันในลีกไทย

mmmm_pa

ฟุตบอล : กีฬาที่คนไทยให้ความสนใจ และนิยมสูงสุด คือ ฟุตบอล แต่ในขณะนี้มีอยู่เพียง 2 จังหวัดที่ไม่มีทีมฟุตบอลส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันในระบบลีก หนึ่งในนั้น คือ จ.แม่ฮ่องสอน เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีอุปสรรคมากที่สุด

กระแสฟุตบอลไทยกำลังติดลมบน นับจากไทยพรีเมียร์ลีกไปจนถึงลีกภูมิภาคซึ่งมีทีมฟุตบอลส่งแข่งมากกว่า 80 ทีม

แต่ละนัดเฉลี่ยมีแฟนฟุตบอลให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยสถิติยอดผู้ชมเข้าสนามสูงสุดกว่า 20,000 คน

ทั้งนี้ มีเพียง 2 จังหวัด คือ จ.บึงกาฬ และ จ.แม่ฮ่องสอน ที่ยังไม่มีทีมฟุตบอล

จังหวัดที่มีมีอุปสรรคมากที่สุด คือ เมืองสามหมอกแม่ฮ่องสอน นับตั้งแต่เรื่องของการเดินทาง เพราะมีโค้งมากถึง 1,864 โค้ง ใช้เวลาเดินทางจากเชียงใหม่กว่า 6 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของงบประมาณในการทำทีมที่ต้องการผู้สนับสนุน และมีปัญหาสนามแข่งขันซึ่งขณะนี้แม่ฮ่องสอนไม่มีสนามฟุตบอลมาตรฐาน

ทำให้ต้องใช้สนามในมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขต แม่ฮ่องสอน แต่สภาพที่เห็นคือเวลาฝนตกน้ำจะท่วมสนาม

แม้จะมีปัญหามากมาย แต่แม่ฮ่องสอนก็ประกาศพร้อมเต็มที่กับการก้าวเข้าสู่ลีกอาชีพ โดยขณะนี้รอเพียงจังหวัดอนุมัติที่ดินใช้สร้างสนาม และหากมีสนามก็จะส่งเข้าร่วมลีกดิวิชั่น 2 โซนภาคเหนืออย่างแน่นอน

ระยะเวลาอีก 2 ปี เป็นเป้าหมายของแม่ฮ่องสอนที่จะ ส่งทีมแข่งขันในลีกภูมิภาคโซนภาคเหนือ แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดคือผู้สนับสนุน เพราะทีมจะเกิดไม่ได้หากไม่มีทุน

และหากแม่ฮ่องสอนเข้าสู่ฟุตบอลลีกได้สำเร็จ จะเป็นทีมที่สร้างสีสันให้กับวงการฟุตบอลไทย และแน่นอนว่าจะเป็นอีกทีมหนึ่งที่มีสนาม และสภาพอากาศและวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในประเทศ

โพสท์ใน Uncategorized | ใส่ความเห็น